ขสมก.กำหนดขายซองเอกสารประกวดราคารถเมล์เอ็นจีวี ล๊อตแรก 489 คันในวันที่ 9-13 ก.พ.2558 ขณะที่นักวิจัยจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศตั้งข้อสังเกตว่า การจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีอาจเป็นการเพิ่มหนี้ให้ ขสมก.
การจัดซื้อรถโดยสารเอ็นจีวีของ ขสมก.จำนวน 3,183 คัน วงเงิน 1.3 หมื่นล้านบาท เป็นรถปรับอากาศในล็อตแรกจำนวน 489 คัน แต่โครงการนี้ต้องเปิดขายซองประกวดราคาใหม่ เนื่องจากเอกชนที่ซื้อซองจาก 32 ราย มายื่นเพียง 3 ราย จากการตรวจสอบของบอร์ด ขสมก. พบว่าเอกสารไม่ครบถ้วนตามเงื่อนไขประกวดราคา
บอร์ด ขสมก. จึงกำหนดขายซองเอกสารประกวดราคาใหม่ในวันที่ 9-13 ก.พ.2558 โดยใช้เงื่อนไขการประกวดราคาเดิม ซึ่งการประกวดราคาใหม่อาจจะไม่กระทบการรับมอบรถเมล์เอ็นจีวีในล็อตแรก ตามกำหนด 90 วัน ขณะที่หนี้สะสมของ ขสมก. ปัจจุบันมีอยู่กว่า 9.2 หมื่นล้านบาท
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยืนยันว่าไม่มีแผนที่จะยุบหรือเลิก ขสมก. ส่วนแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก. ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับการปรับสัดส่วนการเดินรถ เพื่อให้สอดคล้องกับผู้ใช้บริการและจัดหารายได้โดยให้เอกชนเข้ามาเดินรถ ก่อนเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสาหกิจหรือซูเปอร์บอร์ดพิจารณา
นายสุเมธ องค์กิตติกุล ผู้อำนวยการวิจัยด้านนโยบายการขนส่งและโลจิสติกส์ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศ มองว่า ขสมก.มีภาระหนี้สินที่เกิดจากนโยบายของรัฐ โดยเฉพาะเรื่องค่าโดยสาร ขณะที่การจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีอาจเป็นการสร้างหนี้เพิ่ม หากไม่มีการแก้ไขปัญหาหนี้เก่าก่อน
ที่ผ่านมาโครงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี ถูกจับตามองจากนักวิชาการและภาคประชาชนในเรื่องความโปร่งใส โดยเฉพาะประเด็นการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งรัฐบาลพยายามทำให้เกิดความโปร่งใสด้วยการนำระบบสัญญาคุณธรรมมาใช้กำกับในการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีที่เหลืออีก 2,694 คัน ที่จะดำเนินการภายในปี 2559 ซึ่งเชื่อว่าโครงการก็จะมีความโปร่งใสมากกว่าในอดีตอย่างแน่นอน
ขอขอบคุณ ภาพและเนื้อหาข่าวจาก : ไทยพีบีเอส )