ชาวบ้านโอดนายทุนขี้ไก่เหม็นฟ้องกลับเรียก2.3ล้าน

นายทุนฟาร์มไก่ดื้อฟ้องกลับแพ่ง-อาญา ชาวลาดกระทิง27คนเรียก2.3ล้าน อ้างหมิ่นประมาท เหตุพยานยัน250ครัวเหม็นขี้ไก่ ฟาร์มไม่ทำตามศาลปกครอง

15 พ.ย.เวลา 08.30 น. ที่บริเวณศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา กลุ่มชาวบ้านที่เดือดร้อนจากสาเหตุเจ้าของฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่บริษัท บริษัท บุญแปด จำกัดฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท และแจ้งความอันเป็นเท็จ รวมทั้งถูกเรียกค่าเสียหาย 2.3 ล้านบาท ขึ้นศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องนัดแรกโดยมีชาวบ้านกว่า 100 คนจากหมู่บ้านร่วมให้กำลังใจ

น.ส. น้ำอ้อย มั่นศรีจันทร์  อายุ 41 ปี ชาวบ้าน ต.ลาดกระทิง อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา หนึ่งในผู้ถูกฟ้องร้องดังกล่าว เปิดเผยว่า ตนพร้อมด้วยชาวบ้านจำนวน 27 คน นั้น ได้ถูกฟาร์มเลี้ยงไก่บริษัท บุญแปด จำกัด ฟ้องทั้งคดีอาญาและแพ่ง เรียกค่าเสียหายเป็นเงินรวม 2.3 ล้านบาท หลังจากตนพร้อมด้วยชาวบ้านกว่า 250 ครัวเรือน ได้ร่วมกันทำหนังสือร้องเรียนไปยัง อบต.ลาดกระทิง และกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เมื่อเดือนกรกฎาคม 2549 ที่ผ่านมาว่า ฟาร์มเลี้ยงไก่ดังกล่าวส่งกลิ่นเหม็นรบกวนชาวบ้านรวม 4 หมู่บ้าน ในบริเวณใกล้เคียงโดยรอบพื้นที่ ซึ่งมีทั้งชุมชนบ้านเรือนพักอาศัย วัด และโรงเรียน

ชาวบ้านและนักเรียนที่เดือดร้อน

ต่อมา ทางกรมอนามัย โดยศูนย์อนามัยที่ 3 ได้เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่และแจ้งผลว่า ฟาร์มเลี้ยงไก่ดังกล่าวเกิดฝุ่นจำนวนมากเป็นมลพิษอันตรายต่อสุขภาพ อีกทั้งสถานที่ตั้งอยู่ใกล้ชุมชน สถานีอนามัย วัดและโรงเรียน สร้างความรำคาญ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพชาวบ้านจริง จากนั้น อบต.ลาดกระทิง ได้แจ้งผู้ประกอบการให้ทราบถึงผลการตรวจสอบด้านอนามัยดังกล่าว พร้อมกับให้ดำเนินการแก้ไขปรับปรุงสถานประกอบการให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนด ทางอบต.ลาดกระทิง ยังไม่สามารถจะบังคับผู้ประกอบการแก้ไขปัญหาให้ได้ข้อยุติลงได้

หลังจากนั้น ผู้ประกอบการยังฝ่าฝืนคำสั่งอบต.ลาดกระทิง โดยนำไก่ไข่มาเลี้ยงเพิ่มอีก 7 โรงเรือน จำนวนมากถึง 350,000 ตัว ทั้งที่ฟาร์มเลี้ยงไก่แห่งนี้ได้รับใบอนุญาตจาก อบต.ให้ประกอบกิจการเลี้ยงไก่ไข่ได้เพียงจำนวน 100,000 ตัวใน 2 โรงเรือนเท่านั้น รวมเป็น 4.5 แสนตัว

ต่อมา เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.2551 อบต.ลาดกระทิง จึงได้มีคำสั่งงดต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการฟาร์มไก่ แต่นายทุนก็ยังเฉยเมยไม่สนใจ ชาวบ้านต้องอดทนเดือดร้อนจากกลิ่นเหม็นเรื่อยมา จากนั้นในเดือนมิ.ย.2552 ชาวบ้านได้นำเรื่องยื่นฟ้องต่อศาลปกครองจ.ระยอง ขอให้ไต่สวนมีคำสั่งให้ อบต.ลาดกระทิง ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายเพื่อระงับเหตุเดือดร้อนรำคาญให้แก่ชาวบ้าน

กระทั่ง วันที่ 4 พ.ย.2552 ศาลปกครองจังหวัดระยองมีคำพิพากษาให้อบต.ลาดกระทิง ใช้อำนาจตามพ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 ระงับเหตุเดือดร้อนรำคาญจากการเลี้ยงไก่ให้หมดสิ้นไปภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา พร้อมทั้งให้ทาง อบต.ลาดกระทิง พิจารณาดำเนินคดีกับบริษัทดังกล่าว กรณีที่มีการฝ่าฝืนคำสั่งให้ปรับปรุงแก้ไขเหตุสร้างความรำคาญ โดยให้พิจารณาดำเนินคดีภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา และให้ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข เข้าไปทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงกรณี มีการนำไก่ไข่เข้ามาเลี้ยงเพิ่มในโรงเรือนอีก ภายใน 20 วัน นับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา หากมีการฝ่าฝืนให้พิจารณาดำเนินคดีตามบทลงโทษที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535

ซึ่งทาง อบต.ลาดกระทิง จึงได้ทำตามคำสั่งศาล พร้อมแจ้งให้แก่ทางผู้ประกอบการ ทำการแก้ไขปรับปรุง และระงับปัญหากลิ่นเหม็นของขี้ไก่ให้หมดสิ้นไปตามลำดับ โดยเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2553 ที่ผ่านมา ชาวบ้านได้รับหนังสือขอความร่วมมือจาก อบต. ในการให้ความเห็นข้อมูลที่เป็นจริงในปัจจุบัน หลังจากทางผู้ประกอบได้มีการแจ้งว่า ได้ทำการแก้ไขปรับปรุง และระงับเหตุรำคาญให้หมดสิ้นไปแล้ว ตามหนังสือที่แจ้งมาด้วย โดยมีชาวบ้านยินยอมให้ความเห็นกับทาง อบต. จำนวน 27 ราย ซึ่งชาวบ้านทั้งหมดให้ความเห็นว่า “ยังคงได้รับกลิ่นเหม็นอยู่ มีอาการแสบจมูก เวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน และหงุดหงิด รำคาญ”

จากนั้น ทาง อบต.ลาดกระทิง จึงได้นำรายชื่อของชาวบ้านที่ให้ความเห็น และที่อยู่ของชาวบ้านทั้งหมดไปแจ้งให้แก่ทางบริษัทผู้ประกอบการทราบ แต่แทนที่ทางบริษัท จะได้นำข้อมูลจากความเห็นทั้งหมดไปใช้ในการพิจารณาเพื่อปรับปรุงแก้ไข กลับนำเหตุผลดังกล่าว ไปใช้ในการยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ในการเอาผิดกับชาวบ้านทั้ง 27 ราย ที่ให้ความร่วมมือ โดยได้ทำการฟ้องร้องเอาผิด ทั้งคดีแพ่ง และอาญา พร้อมทั้งได้เรียกร้องค่าเสียหาย โดยเฉพาะจาก นายวันชัย ฤทธิ์ลิขิต อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 187/12 ม.1 ต.ลาดกระทิง ซึ่งถูกมองว่าเป็นแกนนำ จำนวน 1 ล้านบาท และชาวบ้านอีกรายละ 5 หมื่นบาท จำนวน 26 ราย พร้อมด้วยดอกเบี้ย

ขณะนี้ชาวบ้านที่ถูกทางบริษัทดังกล่าวฟ้องร้อง จึงได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จึงได้เข้าไปร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ในการต่อสู้คดี โดยในวันนี้ศาลได้นัดไต่สวนมูลฟ้องนัดแรกในเวลา 09.00 น. โดยมีทนายความอาสาเพื่อผู้บริโภคได้เข้ามาให้การช่วยเหลือแก่ชาวบ้านในการต่อสู้คดี ซึ่งในวันนี้ หลังการไต่สวนศาลได้นัดให้มีการเจรจาไกล่เกลี่ยกันก่อน ในวันที่ 24 ธ.ค.2553 เวลา 13.00 น. น.ส.น้ำอ้อย กล่าว

พิมพ์ อีเมล