เครือข่ายผู้บริโภค ร้อง กทช.สะสางปัญหา 107 บาท

consumerthai – 12 ก.พ.52 เครือข่ายผู้บริโภค 7 ภูมิภาค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเข้ายื่นหนังสือต่อ กทช.ให้ออกคำสั่งยกเลิกเงื่อนไขวันหมดอายุบัตรเติมเงิน และขอให้บังคับไม่ให้เรียกเก็บค่าต่อสัญญาณ 107 บาท จี้ให้ยกเลิกใบอนุญาตผู้ประการที่เรียกเก็บ 107 บาท

เวลา 9.30 น. เครือข่ายผู้บริโภคกว่า 200 คน เดินขบวนจาก สถานีรถไฟฟ้า อารีย์ ไปยัง สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กทช. เพื่อยื่นหนังสือเสนอให้คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ บังคับใช้ประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่องมาตราฐานของสัญญาให้บริการโทรคมนาคม พ.ศ. 2549 โดยยกเลิกบทเฉพาะกาล ข้อ 36 วรรคสุดท้าย เพราะเครือข่ายผู้บริโภคเห็นว่าเป็นช่องโหว่ที่ถูกนำมาอ้างว่าสัญญาใหญ่ยังอยู่ระหว่าการพิจารณาของ กทช.
   
พร้อมทั้งขอให้ทาง กทช.มีคำสั่งที่ชัดเจน ให้ผู้ประกอบการยกเลิกเงื่อนไขวันหมดอายุของระบบบัตรเติมเงิน และยกเลิกการเก็บค่าเชื่อมต่อสัญญาณ ส่วนผู้ประกาอบการที่เอาเปรียบผู้บริโภค และละเมิดสิทธิโดยการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บริการต่อบุคคลอื่น ขอให้ยกเลิกใบอนุญาต หรือกำหนดมาตราการการลงโทษขึ้นเด็ดขาด รวมทั้งขอให้ กทช.เร่งดำเนินการคงสิทธิเลขหมาย โดยควบคุมการเรียกเก็บค่าบริการให้เกิดความเป็นธรรม
    
นอกจากนี้ยังให้มีการสนับสนุนให้มีการศึกษาวิจัย เรื่องผลกระทบของคลื่นสัญญาณโทรศัพท์ต่อสุขภาพ อย่างเปิดเผยโปร่งใส และให้ประชาชนกลุ่มที่เสี่ยงต่อการได้รับผลกระทบมีส่วนร่วมด้วย

นางปฐมมน กันหา เครือข่ายผู้บริโภคภาคกลาง กล่าวว่า คนไทย 63 ล้านคนมีคนใช้โทรศัพท์มือถือประมาณ 70 ล้านเลขหมาย และ 90 เปอร์เซ็นต์ หรือ 63 ล้านเลขหมายที่ใช้บัตรเติมเงินปัญหาถูกผู้ประกอบการฉ้อโกง ระบบบัตรเติมเงิน คือผู้บริโภคฝากเงินไว้กับผู้ประกอบการ แล้วผู้ประกอบการหักค่าโทรตามที่ใช้จริง หาผู้ประกอบการกำหนดระยะเวลาการใช้ เมื่อหมดเวลา เงินที่เหลือต้องคืนให้กับผู้ใช้บริการ ต้องไปซื้อบัตรเติมเงินมาใหม่ จึงจะใช้งานได้

“เราอยากให้ กทช.ประกาศให้ยกเลิกวันหมดอายุของบัตรเติมเงิน และถึงแม้ว่าทาง กทช.ได้ประกาศออกมาแล้วว่า ผู้ประกอบการจะเรียกเก็บเงินค่าต่อสัญญาณ 107 บาท กับผู้บริโภคไม่ได้ แต่ก็ยังมีการฝ่าฝืนอยู่ทุกวัน จึงอยากให้ กทช.มีมาตรการที่เด็ดขาดว่าจะจัดการกับผู้ประกอบการที่ทำผิดกฎหมายอยู่นี้ ว่าจะจัดการอย่างไร” เครือข่ายผู้บริโภคภาคกลางกล่าว

ภายหลังจากนายสุธรรม หวังในธรรม กรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ รับเรื่องแล้ว รับปากว่าจะนำเข้าสู่ที่ประชุมและหามาตรการบังคับต่อไป พร้อมย้ำว่าผู้ประกอบการจะเรียกเก็บเงินค่าต่อสัญญาณจำนวน 107 บาทไม่ได้

 

ขณะที่ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ได้มีการประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ โดยมีผลการพิจารณาจากกรณีการยื่นข้อเสนอของเครือข่ายผู้บริโภค 7 ภูมิภาคเรื่องค่าเชื่อมต่อสัญญาณโทรศัพท์ ซึ่ง กทช. ยังมีมติให้ยืนตามมติเดิมจากการประชุมครั้งที่ 48/2551 คือให้ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือผู้ให้บริการเครือข่ายดีแทค ได้คืนเงินค่าต่อคู่สายโทรศัพท์จำนวน 107 บาท ให้กับผู้ร้องเรียนและระงับการเก็บค่าต่อคู่สายสัญญาณโทรศัพท์จากผู้ใช้บริการรายอื่นๆ ด้วย ส่วนกรณีของผู้ให้บริการโทรศัพท์รายอื่นๆ นอกเหนือจากดีแทคนั้น กทช. เสนอให้สถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (สบท.) เป็นผู้รวบรวมเรื่องร้องเรียนจากผู้ใช้บริการที่ประสบปัญหาจากผู้ให้บริการเครือข่ายอื่นๆ นำเรื่องเสนอให้ กทช. เพื่อพิจารณา และดำเนินการเพื่อหาข้อยุติในลำดับต่อไป

 
 
 
 
 
 

เครือข่ายผู้บริโภคตั้งขบวนที่สถานีรถไฟ้าอารีย์




เดินขบวน ถึง กทช.








พิมพ์ อีเมล