ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการก่อสร้างอาคารสูงในซอยร่วมฤดี ยื่นขอคัดค้านการรังวัดซ้ำซ้อน

เขียนโดย มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค. จำนวนผู้ชม: 18576

pic 010819 repeatsurveying 1 resize

ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการก่อสร้างอาคารสูงในซอยร่วมฤดี ยื่นขอคัดค้านการรังวัดซ้ำซ้อน ชี้ไม่มีเหตุจำเป็นที่ต้องทำซ้ำ เนื่องจากพื้นที่ในซอยเคยทำการรังวัดมาหลายครั้งแล้ว

จากกรณีที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืนตามศาลปกครองกลาง ไม่รับคำร้องของบริษัท ลาภประทาน จำกัด และบริษัท ทับทิมทร จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรมดิเอทัส บางกอก และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ดิ เอทัส เรสซิเดนซ์ ในซอยร่วมฤดี ที่ยื่นคำร้องคัดค้านคำสั่งควบคุมอาคารโรงแรมดิเอทัส เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2561 ทำให้ กทม. ต้องดำเนินการรื้อถอนอาคารดังกล่าวต่อไป แต่ทว่าตอนนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้านั้น

ล่าสุดได้มีการเปลี่ยนผู้อำนวยการเขตปทุมวัน ผู้อำนวยการเขตได้ไปยื่นเรื่องต่อสำนักงานที่ดิน กรุงเทพมหานคร เพื่อขอรังวัดที่ดินอีกครั้ง สำนักงานที่ดิน กรุงเทพมหานคร จึงได้แจ้งเจ้าของที่ดินในซอยร่วมฤดี ตั้งแต่ปากซอยร่วมฤดี ว่าจะทำการรังวัดตรวจสอบที่สาธารณะประโยชน์ในวันที่ 1 สิงหาคม 2562 เวลา 10.30 น.pic 010819 repeatsurveying 5 resize

วันนี้ (1 สิงหาคม 2562) เวลาประมาณ 10.30 น. ทนายความเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค และเจ้าหน้าที่ศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ.) พร้อมด้วยผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการก่อสร้างอาคารสูงในซอยร่วมฤดี จึงเดินทางไปยื่นขอคัดค้านการรังวัดที่ดินของสำนักงานเขตปทุมวัน ต่อธวัช ล้อถาวร หัวหน้าฝ่ายรังวัดที่ดิน สำนักงานที่ดิน กรุงเทพมหานคร ที่บริเวณซอยร่วมฤดี ด้วยเหตุผลที่ว่าสำนักงานเขตปทุมวันมีการขอทำรังวัดซ้ำซ้อนในส่วนที่เคยทำการรังวัดมาหลายครั้งแล้ว ตามเหตุผล ดังนี้

1. เขตปทุมวันเคยมีหนังสือถึงสำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร ให้รังวัดที่ดินจากปากซอยร่วมฤดี ด้านถนนเพลินจิต เลยซอยร่วมฤดี 2 ไปจนถึงที่ตั้งโรงแรมดิเอทัส ซึ่งทางสำนักงานที่ดิน กรุงเทพมหานคร ได้มีหนังสือตอบไปยังเขตปทุมวันว่า ความกว้างของเขตทางของซอยร่วมฤดีนั้นมีภูมิประเทศเป็นเขตทางอยู่แล้ว จึงไม่ทำการรังวัดให้

2. เมื่อประมาณปลายปี 2550 ได้มีการรังวัด ในเขตซอยร่วมฤดีตั้งแต่ด้านถนนเพลินจิต ไปจนถึงโรงแรมดิเอทัสแล้ว

3. ในคดีหมายเลขดำที่ 1475/2551 หมายเลขแดงที่ 208/2555 คดีระหว่างนายแพทย์สงคราม ทรัพย์เจริญ ที่ 1 กับพวกรวม 24 คน ผู้ฟ้องคดี บริษัท ลาภประทาน จำกัด ที่ 1 กับพวกรวม 2 คน ผู้ร้องสอดผู้อำนวยการเขตปทุมวันที่ 1 และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ 1 ผู้ถูกฟ้องคดี ซึ่งมีประเด็นข้อพิพาทว่าซอยร่วมฤดี มีความกว้างเท่าใด ศาลจึงได้มีคำสั่งให้ รังวัดความกว้างของซอยร่วมฤดี นำมาเปรียบเทียบกับแผนที่ทางอากาศแล้วพบว่าตรงกันและคู่ความทุกฝ่ายร่วมทั้งสำนักงานเขตปทุมวัน และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ก็ได้ลงชื่อรับรองความถูกต้องของการรังวัดดังกล่าว

และ 4. ในคดีหมายเลขดำที่ 931/2558 คดีหมายเลขแดงที่ 1313/2558 คดีระหว่าง บริษัท ลาภประทาน จำกัด ที่ 1 กับพวกรวม 2 คน ผู้ฟ้องคดี นางสุภาวดี ชัยชนะวงศ์ ที่ 1 กับพวกรวม 9 คน ผู้ร้องสอด ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน ที่ 1 และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ 1 ผู้ถูกฟ้องคดี โดยกล่าวหาว่าผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 2 ละเลยต่อหน้าที่ที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ ปล่อยให้ผู้ร้องสอดกับพวกรุกล้ำทางสาธารณะซอยร่วมฤดี ศาลปกครองกลางจึงได้มีคำสั่งให้รังวัด ที่ดินในซอยร่วมฤดีอีกครั้งหนึ่ง ผลปรากฏว่าเนื้อที่ที่ดินคงเดิมตามโฉนด ไม่ได้รุกล้ำและ ได้ความกว้างของซอยร่วมฤดี เป็นไปตามข้อ 3. ที่เคยรังวัดไว้pic 010819 repeatsurveying 3 resize

นฤมล เมฆบริสุทธิ์ หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มพบ. กล่าวว่า มพบ. ได้รับการติดต่อจากผู้ร้องเรียนในซอยร่วมฤดี เนื่องจากสำนักงานที่ดินจะทำการรังวัดที่ดินในซอยร่วมฤดีตั้งแต่ปากซอยร่วมฤดี ที่ได้รับการร้องขอให้ทำรังวัดที่ดินจากกรุงเทพมหานคร โดยอ้างสาเหตุว่าพื้นที่ของสถานฑูตอเมริการุกล้ำที่ดินสาธารณะ ซึ่งทาง มพบ. และกลุ่มผู้ร้องเรียนนั้นมองไม่เห็นว่าเหตุผลดังกล่าวจะทำให้มีความจำเป็นที่ต้องรังวัดที่ดินใหม่ เนื่องจากการอนุญาตให้ใช้สถานที่เป็นการอนุญาตโดยสำนักงานเขต และก่อนที่จะมีการเปิดใช้อาคารต่างๆ ที่มีการขออนุญาตก่อสร้าง สำนักงานเขตจะต้องมีการตรวจสอบก่อนที่จะอนุญาตให้ใช้ว่าเป็นไปตามแบบหรือมีการรุกล้ำที่สาธารณะหรือไม่ สิ่งนี้จึงเป็นอำนาจหน้าที่ของเขตที่ต้องลงพื้นที่มาตรวจสอบก่อนจะมีการอนุญาตให้ใช้ วันนี้จึงมายื่นขอคัดค้านการรังวัดซ้ำซ้อน เพราะเดิมมีการรังวัดที่ดินตั้งแต่ปากซอยร่วมฤดีฝั่งถนนเพลินจิต ไปจนถึงโรงแรมดิเอทัสมาหลายครั้งแล้ว และอยากให้สำนักงานเขตมีการบูรณาการการทำงานกับกลุ่มที่จะขอมาตรวจสอบ หากจะต้องทำรังวัดจริงๆ ควรจะเป็นรังวัดจากพื้นที่มีการร้องเรียนไปมากกว่าการมาทำรังวัดใหม่ทั้งซอย

“รัฐควรใช้ข้อมูลที่มีอยู่เข้าไปตรวจสอบก่อนที่จะออกหนังสือแจ้งกับเจ้าของที่ดินว่าจะมีการรังวัดใหม่ อีกทั้งเจ้าหน้าที่ควรไปตรวจสอบเรื่องการฟ้องคดีและรายละเอียดที่มีการดำเนินการในเรื่องของคดี ซึ่งส่วนนั้นมีข้อมูลเรื่องที่ดินและเรื่องเขตทางชัดเจนส่วนนี้อย่างชัดเจน และการคัดค้านในวันนี้จะเป็นการยื่นขอคัดค้านไม่ให้มีการทำรังวัดไปจนกว่าจะมีการตรวจสอบข้อมูลที่มีอยู่จากหน่วยงานรัฐ” นฤมลกล่าวpic 010819 repeatsurveying 4 resize

นฤมล กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เรื่องที่มีผู้ร้องเรียนไปนั้นเป็นผู้ร้องเรียนที่มีรายชื่ออยู่ในกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในกรุงเทพมหานคร (กอ.รมน.กทม.) ซึ่งไม่ทราบว่าหน่วยงานดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้และทำไมถึงต้องลงมาตรวจสอบเอง ในเมื่อเป็นพื้นที่เคยมีการตรวจสอบไปตั้งแต่ต้นแล้วด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ของ กอ.รมน.กทม. แจ้งว่าจะนำเรื่องดังกล่าวไปรายงานและอาจมีการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องทุกส่วนมาร่วมประชุมเพื่อหาข้อยุติร่วมกันหรือมีแนวทางในการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ร่วมกันpic 010819 repeatsurveying 6 resize

          อย่างไรก็ตาม ในส่วนเรื่องการรื้อถอนโรงแรมดิเอทัส ที่ศาลมีคำสั่งให้ดำเนินการนั้น ในตอนนี้ยังเห็นว่ายังไม่ดำเนินการรื้อถอน รวมทั้งยังมีการใช้อาคารดังกล่าวอีกด้วย จึงอยากฝากถึงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้เร่งดำเนินการรื้อถอนหรือสั่งให้ผู้ประกอบการดำเนินการรื้อถอนตามคำสั่งศาล

ร่วมติดตาม Facebook LIVE ย้อนหลัง “กรณีชาวซอยร่วมฤดี ขอยื่นคัดค้านการรังวัดซ้ำซ้อน” ได้ที่เฟซบุ๊กเพจ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค

Tags: ซอยร่วมฤดี, ทำรังวัด, รังวัดซ้ำ

พิมพ์