"กสทช."ฟัน 3 โฆษณาทีวีดาวเทียมเกินจริง เตรียมบี้ไทยคมดำเนินการจริงจัง 30 เม.ย.
น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ หรือ บอร์ด กระจายเสียงและโทรทัศน์ มีมติออกมาตรการระงับโฆษณาอาหารและยาทางทีวีดาวเทียม 3 ชนิด คือ เอนไซน์เจนิฟูดส์ ซันคลาร่า และเกร็กคู ซึ่งได้รับการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. แล้วว่าเป็นโฆษณาเกินจริง และจะมีผลทันที
ทั้งนี้ กสทช.จะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะบริษัท ไทยคม ผู้ให้บริการดาวเทียมไทยคมและไอพีสตาร์ที่ทางทีวีดาวเทียมเช่าใช้ช่องสัญญาณให้ระงับการ เผยแพร่ออกอากาศโฆษณาดังกล่าว และทางกสทช.จะเข้าพบไทยคมเพื่อทำความเข้าใจในเรื่องนี้วันที่ 30 เม.ย.
"ที่ผ่านมาเรียกได้ว่าปล่อยผีกันมานานแล้ว ถึงเวลาที่กสทช.จะใช้มาตรการทางปกครองเข้าดำเนินการ ซึ่งอาจไม่ได้ผล 100% แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลยและปล่อยให้ทุกอย่างช้าไปกว่านี้อีก"น.ส.สุภิญญากล่าว
สำหรับการพิจารณาระงับโฆษณานั้น กสทช.จะอิงกับคำตัดสินของอย. เป็นหลัก เพราะปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายฉบับใดของกสทช.ที่สามารถเอาผิดกับโฆษณาได้โดยตรง ดังนั้น จึงต้องดำเนินการผ่านไทยคม ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเอกชนในลักษณะขอความร่วมมือ ทั้งจากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที และไทยคม เนื่องจากทางไทยคมยังไม่ได้รับใบอนุญาตให้บริการ หรือ ไลเซ่นส์ จาก กสทช.โดยตรง
น.ส.สุภิญญา กล่าวว่า มาตรการระงับการออกอากาศนั้นจะขยายผลไปยังวิทยุชุมชนในอนาคต แต่การที่กสทช.เข้มงวดกับทีวีดาวเทียมก่อน เพราะเป็นช่องทางที่เข้าถึงผู้ชมในวงกว้างมากกว่า โดยปัจจุบันมีช่องรายการทีวีดาวเทียมที่ออกอากาศผ่านดาวเทียมไทยคมราว 400 ช่อง และสำรวจพบว่ามีการโฆษณาที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย 100-200 ช่อง คิดเป็นมูลค่าของงบประมาณโฆษณาที่ค่อนข้างสูง
นอกจากนี้บอร์ดกระจายเสียงยังมีมติเห็นชอบให้จัดทำบันทึกข้อตกลงร่วมกัน หรือ เอ็มโอยู ระหว่าง 4 หน่วยงาน คือ กสทช. อย. สำนักงานคณะกรรมการ คุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครอง ผู้บริโภค เพื่อดำเนินการอย่างจริงจังกับการโฆษณาที่ผิดกฎหมายทางเคเบิลและทีวีดาวเทียม
ข้อมูลจาก นสพ.โพสต์ทูเดย์ 24/04055