
“เอกชนเราทำเต็มที่มาตลอด ตอนนี้ก็เร่งมากๆ แล้ว แต่ติดอยู่ที่การทดสอบระบบระหว่างโอเปอเรเตอร์ด้วยกัน ซึ่งในต่างประเทศการทดสอบระบบในขั้นตอนนี้ต้องใช้ระยะเวลาราว 4-5 เดือน ซึ่งหากไม่มีปัญหาเราก็จะทำเสร็จได้เร็วกว่านี้ แต่ถ้ามีปัญหาของระบบเราต้องแก้ไข เพราะไม่เช่นนั้นมันจะส่งผลกระทบต่อลูกค้า” นายปรีย์มน กล่าว
ด้านนายชาญชัย รัตนปราการ ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบไอที บริษัท ทรูมูฟ จำกัด กล่าวว่า ในความเห็นส่วนตัวหาก กทช.ยังมีมติรับรองมติเดิมที่ต้องเปิดนัมเบอร์
พอร์ตฯ ตามเดิม เอกชนก็อาจจะหาทางออกด้วยการเปิดบริการกับพนักงานในองค์กรไปก่อน ในกลุ่มเลขหมายที่จำกัด เพราะจะได้ถือเป็นการทดสอบระบบไปในตัวด้วย ดีกว่าที่เปิดบริการให้แก่ประชาชนทั่วไป แต่หาก กทช.ยังต้องการให้เปิดบริการเต็มรูปแบบในวันที่ 1 ก.ย.นี้ เอกชนก็จำเป็นต้องหารือกันอีกครั้งว่าจะดำเนินการได้อย่างไรบ้าง
แหล่งข่าวจาก กทช.ระบุว่า ในวันนี้ (11 ส.ค.) มติคณะกรรมการ (บอร์ด) กทช.น่าจะออกมายืนตามมติเดิม ที่กำหนดให้เปิดบริการนัมเบอร์พอร์ตฯ วันที่ 1 ก.ย. แม้ว่าเอกชนจะส่งหนังสือชี้แจงถึงปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดความล่าช้า และปัญหาด้านเทคนิคต่างๆ ที่ไม่สามารถเปิดได้ทัน และคาดว่าจะเปิดบริการได้ครบทั้งระบบในวันที่ 1 พ.ย. โดยในระหว่างนี้เอกชนจะยอมให้ กทช.ปรับเงินวันละ 20,000 บาท
ทั้งนี้ หากรวมค่าปรับที่เอกชนเปิดบริการคือล่าช้าไป 60 วัน คิดเป็นเงินรายละ 1.2 ล้านบาท รวมผู้ให้บริการทั้ง 5 ราย คือ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือเอไอเอส, ดีแทค, ทรูมูฟ, บมจ.ทีโอที และบมจ.กสท โทรคมนาคม นั้น กทช.จะได้ค่าปรับจากเอกชนในกรณีดังกล่าวรวม 6 ล้านบาท
นสพ.กรุงเทพธุรกิจ 11 ส.ค.53