สบท.เรียกร้องปรับปรุงเงื่อนไขคงสิทธิเบอร์เดิมควรทำวันไหนก็ได้ ไม่ต้องย้อนกลับไปขอเงินคืนจากรายเดิมอีก นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (สบท.) กล่าวถึงเงื่อนไขการโอนย้าย ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้ให้บริการตามประกาศ กทช. เรื่อง หลักเกณฑ์บริการคงสิทธิเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ว่า มีหลายประเด็นที่ควรพิจารณา เช่น การที่ผู้ให้บริการกำหนดเพิ่มเติมว่า ผู้ที่จะมีสิทธิใช้บริการเปลี่ยนเครือข่ายใหม่ ใช้เบอร์เดิมได้ ต้องใช้บริการกับรายเดิมมาอย่างน้อย 90 วัน ซึ่งเป็นเรื่องไม่เป็นธรรมและไม่สมเหตุสมผล
ทั้งนี้เพราะการให้บริการคงสิทธิเลขหมายคิดค่า ธรรมเนียมอยู่แล้ว การโอนย้ายย่อมเหมือนการขอเปิดเบอร์ใหม่ ควรทำวันไหนก็ได้ ยกเว้นบริษัทจะเปิดให้ขอใช้บริการได้ฟรี ปลอดค่าธรรมเนียม
ส่วนการคิดค่าบริการ 99 บาท แพงเกินไป เพราะต้องถือเป็นบริการที่ไม่แสวงหากำไร เหมือนการตั้งบริษัทกลางที่มีหน้าที่อำนวยความสะดวกให้ทุกบริษัท ซึ่งจากการสำรวจของ สบท. มีผู้บริโภค 10% ต้องการใช้บริการเปลี่ยนเครือข่ายใหม่เบอร์เดิม จำนวนผู้ต้องการใช้บริการที่มาก ต้นทุนจึงถูกลงได้อีกมาก จากเดิมที่ผู้ให้บริการคิดบนฐานว่า มีผู้ต้องการใช้บริการเพียง 1%
ประเด็นต่อมาคือ การเตรียมความพร้อมเรื่องการถ่ายโอนเงินคงเหลือ เพื่ออำนวยความสะดวกลูกค้า ไม่ต้องย้อนกลับไปขอเงินคืนจากรายเดิมอีก ทั้งระยะเวลาโอนย้าย ควรใช้ 3 วันตามกฎหมายระบุ เพราะตรวจสอบเอกสารเพียงบัตรประชาชน และทะเบียนนิติบุคคล เท่านั้น
“การขอโอนย้ายครั้งละหลายเลขหมาย ไม่ว่าจะเป็น 25 เลขหมายหรือ 100 เลขหมาย เท่ากับตรวจสอบหลักฐานครั้งเดียวใช้ได้เลย เวลาที่ใช้น่าจะสั้นกว่า ขณะที่ผู้บริโภค 100 คน 100 เลขหมาย เขาต้องตรวจสอบเอกสาร 100 ชุด ตรวจสอบเสร็จภายใน 3 วันได้”
รวมถึงการให้ผู้ใช้บริการชำระหนี้ค้าง บริษัทควรแจ้งยอดหนี้ให้ผู้บริโภคทราบทีเดียวหลังการโอนย้าย เพื่อให้ชำระคืนเป็นยอดเดียว
ข้อมูลจาก นสพ.กรุงเทพธุรกิจ 10/08/53