บริการสุขภาพ

เผย รพ.รัฐชื่อดังเรียกเก็บเงินผู้ป่วยสิทธิบัตรทองก่อนผ่าตัด อ้างเป็นเงินประกัน-ไม่จ่ายต้องเลื่อนคิวผ่าตัด

เขียนโดย ศูนย์ข่าวผู้บริโภค วันที่ . จำนวนผู้ชม: 28514

590613 file
ผู้ประสานงานหลักประกันสุขภาพประชาชนเผยโรงพยาบาลรัฐชื่อดังเรียกเก็บเงินก่อนผ่าตัด อ้างว่าเป็นเงินประกัน ถ้าไม่ได้ใช้จะคืนให้ แถมถ้าไม่วางเงินก่อนก็ไม่ผ่าตัดให้ ชี้สร้างความเดือนร้อนแก่ประชาชน คนไม่มีเงินต้องกู้หนี้เสียดอกเบี้ยแม้จะได้เงินประกันคืนทีหลังก็ตาม

นางกนกวรรณ ด้วงเงิน ผู้ประสานงาน ศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพประชาชน เขตจตุจัตร/ลาดพร้าว เปิดเผยว่า มีโรงพยาบาลรัฐชื่อดังแห่งหนึ่งในเขตกรุงเทพฯชั้นใน มีพฤติกรรมเรียกเก็บเงินจากผู้ป่วยก่อนผ่าตัดโดยอ้างว่าเป็นเงินประกัน และเท่าที่พูดคุยกับผู้ป่วยที่ตนช่วยประสานงานให้ พบว่ามีการเรียกเก็บทุกเคส แม้แต่ผ่าตัดต้อกระจกก็ยังเรียกเก็บเงินเป็นจำนวน 5,000 บาท

นางกนกวรรณ กล่าวว่า นอกจากได้ข้อมูลจากผู้ป่วยแล้ว ตนเองก็ประสบกับเหตุการณ์นี้ด้วย โดยในเดือน ม.ค. 2560 สามีของตนเข้าผ่าตัดหมอนรองกระดูกที่โรงพยาบาลแห่งนี้ เบื้องต้นทางโรงพยาบาลบอกว่าต้องวางเงิน 15,000 บาท เมื่อถามว่าเป็นเงินค่าอะไรก็ได้คำตอบว่าเป็นค่าประกัน ถ้าไม่ได้ใช้ก็จะคืนให้แต่ถ้าใช้เกินก็เก็บเงินเพิ่ม ตนจึงเตรียมเงินไว้ จากนั้นเมื่อถึงวันก่อนผ่าตัด ทางโรงพยาบาลก็เอ็กซเรย์อีกครั้งแล้วมีการประชุมทีมแพทย์ โดยนัดคิวผ่าตัดไว้ตอนเช้าของวันถัดไป

อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเช้าวันนัดผ่าตัด ทางโรงพยาบาลแจ้งว่าเงิน 15,000 บาทไม่พอ ต้อง 35,000 บาท ตนจึงถามว่าทำไมถึงเรียกเก็บเงินเยอะ แล้วอุปกรณ์ที่ต้องใช้ไม่มีในสิทธิประโยชน์ของหลักประกันสุขภาพหรืออย่างไร ก็ได้รับคำตอบว่าสิทธิบัตรทองก็มี แต่เป็นของจีนคุณภาพน้อยไม่ค่อยได้มาตรฐาน ถ้าเสียเงินเพิ่มอีกนิดหน่อย ใช้อุปกรณ์ที่โรงพยาบาลแนะนำก็จะได้ของดีมีคุณภาพกว่า

“เราก็โทรคุยกับลูก คุยกันว่าเห็นมีหลายคนที่ผ่าแล้วเดินไม่ได้ก็มี ด้วยความกลัวว่าสามีจะเดินไม่ได้ ไม่กล้าเสี่ยง ก็เลยยอมจ่ายเพิ่มเป็น 35,000 บาท จากนั้นเราก็บอกว่าเตรียมเงินมาแค่นี้ เงินไม่พอ ขอมาจ่ายมีหลังได้ไหม พรุ่งนี้เช้าเอามาจ่ายให้ มันไม่ใช่ 500 หรือ 5,000 ที่จะได้หาตอนนี้ได้เลย เขาก็บอกว่าไม่เป็นไร อย่างนั้นก็เลื่อนเคสผ่าตัดไปตอนที่ได้เงินมาแล้ว เขาบอกอย่างนี้ เราก็เลยโทรบอกลูกให้รีบโอนเงินมาให้ แล้วไปจ่ายตอนประมาณ 10.00 น. คิวผ่าตัดก็เลยเลื่อนจากตอนเช้ามาเป็นตอนเที่ยงแทน พอผ่าตัดเสร็จก็ได้เงินคืนมาประมาณ 2,000 กว่าบาท”นางกนกวรรณ กล่าว

นางกนกวรรณ กล่าวว่า โดยหลักการแล้วไม่ควรมีการเรียกเก็บเงินก่อนเพราะเป็นการสร้างความเดือนร้อนให้แก่ประชาชนโดยเฉพาะผู้ใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า มีน้อยคนมากที่จะมีเงินเก็บสำรองเพียงพอให้จ่าย คนที่ไม่มีก็ต้องไปกู้หนี้ยืมสิน ถ้าใครหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำไม่ได้ก็ต้องยอมกู้หนี้นอกระบบ แม้โรงพยาบาลจะบอกว่าถ้าไม่ได้ใช้ก็จะคืนให้ แต่กว่าจะได้คืนก็เสียดอกเบี้ยไปเยอะแล้ว

“ผู้ป่วยโรงพยาบาลนี้โดนเรียกเก็บเงินทุกเคสที่หมอนัดผ่าตัด จะทำอย่างไรผู้ป่วยถึงจะไม่ต้องวางเงินก่อนที่จะรักษาเพราะจริงๆแล้วสิทธิประโยชน์ก็น่าจะครอบคลุมได้หมด แม้แต่เรื่องยา ยาบางตัวก็ใช้ยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติ มีอยู่เคสหนึ่งที่เราไปด้วย โรงพยาบาลก็จ่ายยานอกบัญชีมาราคา 1,300 บาท เราก็แนะนำว่ากลับไปบอกหมอว่าขอใช้ยาในสิทธิบัตรทอง ไม่เอายานอก โรงพยาบาลก็เปลี่ยนให้นะ แต่ถ้าคนไม่รู้ก็ต้องเสียเงิน แล้วถ้าเสียบ่อยๆเขาก็ไม่จ่ายยาในบัญชีให้หรอก ก็เสียเงินอยู่ตลอด 500 บาทบ้าง 1,500 บาทบ้าง ก็จะโดนอยู่อย่างนี้”นางกนกวรรณ กล่าว

พิมพ์