มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคคัดค้านมติ กกพ.เอื้อ ปตท. ขึ้นค่าผ่านท่อก๊าซ 1 เมษานี้

ลั่น!ฟ้องศาลปกครองแน่ เหตุขูดรีดประชาชน ยัดไส้ขึ้นค่าไฟฟ้า

Consumerthai (31มี.ค.52) - จากกรณีที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.)ได้มีมติอนุมัติปรับขึ้นอัตราค่าผ่านท่อก๊าซให้กับปตท. จากเดิมที่จัดเก็บในอัตรา ๑๙.๗๔ บาทต่อล้านบีทียู เป็น ๒๑.๗๖ บาทต่อล้านบีทียู หรือเพิ่มขึ้น ๒.๐๒ บาท ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๒ ที่จะถึงนี้

เมื่อวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๒ นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคกล่าวว่า เรื่องอัตราค่าผ่านท่อก๊าซนี้จริงๆ อัตราที่ใช้ในปัจจุบันก็ถือเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องอยู่แล้ว เพราะคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้กำหนดให้ค่าผ่านท่อเป็นค่าคงที่ตลอดอายุโครงการ ทำให้ในแต่ละปี ปตท. ได้กำไรส่วนเกินไปปีละกว่า ๒,๕๐๐ ล้านบาท และจากที่ผ่าน ๆ มาได้มีการประมาณการตัวเลขการใช้ก๊าซที่น้อยกว่าการใช้ก๊าซที่เกิดขึ้นจริง ส่งผลให้การกำหนดราคาค่าผ่านท่อสูงเกินจริง ส่วนต่างที่เกิดขึ้นตรงนี้นับเป็นเงินหลายหมื่นล้านซึ่ง ปตท.ได้ไป


“หากจะมีการคิดปรับราคาค่าผ่านท่อก๊าซจริงๆ ก็ควรจะเป็นการปรับลดมากกว่าปรับเพิ่ม ด้วยเหตุผลหลักๆอยู่สองประการคือ ปตท.คิดอัตราผลตอบแทนการลงทุน(Return of Equality : ROE)สูงกว่าค่ามาตรฐาน คือคิดถึงร้อยละ ๑๘ ทั้งที่ควรจะคิดเพียงเป็นร้อยละ ๑๔ เท่านั้น และการกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะยาว ๔๐ ปีไว้ในอัตราคงที่สูงถึงร้อยละ ๑๐.๕ ทั้งที่ความเป็นจริงอัตราดอกเบี้ยมีการปรับลดตลอดเวลา การคิดค่าผ่านท่ออยู่บนฐานอัตราดอกเบี้ยที่สูงเกินจริงขนาดนี้ ทำให้ปตท.ได้ผลประโยชน์ไปมาก” นางสาวสารีกล่าว

นางสาวสารีกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ได้มีการคำนวณกันไว้ว่า หากมีการปรับลดค่า ROE เป็น ๑๔% และอัตราดอกเบี้ยที่ควรจะเป็นคือ ๕.๗๕% มูลค่าก๊าซจะลดลงมากถึง ๓,๘๐๐ ล้านบาท และค่าบริการต้นทุนคงที่(Demand Charge) ซึ่งเป็นสัดส่วนส่วนใหญ่ของราคาค่าส่งท่อก๊าซจะสามารถลดลงจากเดิม ๑๙.๔๐ บาทเป็น ๑๓.๑๓ บาทต่อล้านบีทียูเท่านั้น


“สิ่งที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้บริโภคมากที่สุดของการปรับขึ้นค่าผ่านท่อก๊าซครั้งนี้ คือ ปตท.ได้มีการปรับมูลค่าท่อก๊าซใหม่สูงถึง ๖๐,๐๐๐ ล้านบาท ทั้งที่ความเป็นจริงมูลค่าท่อก๊าซที่เหลืออยู่มีเพียง ๓๒,๐๐๐ ล้านบาทเท่านั้น เพราะที่ผ่านมาได้มีการจ่ายมูลค่าท่อตรงส่วนนี้ไปแล้ว คิดง่ายๆว่าเหมือนเราจ่ายเงินซื้อของไปหมดแล้วสมมุติว่า ๑๐๐ บาท แต่ได้มีการประเมินว่าของนั้นยังมีมูลค่าอีก ๕๐ บาท ก็มาเก็บเงินเรา ๕๐ บาทอีกรอบ

นอกจากนี้ ปตท.ยังไม่คืนทรัพย์สินที่ใช้อำนาจมหาชน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นท่อส่งก๊าซธรรมชาติและนับเป็นการนำทรัพย์สินประชาชนมาหากำไรกับประชาชน เรื่องนี้ถือเป็นการเอาเปรียบประชาชนที่สุด ถือเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้” นางสาวสารีกล่าวและว่า การที่ กกพ.ได้อนุมัติอัตราค่าผ่านท่าก๊าซให้กับปตท. ครั้งนี้ ทั้งๆที่เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เหตุผลในการขึ้นไม่ชอบ และไม่รักษาผลประโยชน์ของสาธารณชน หากวันพรุ่งนี้(๑ เมษายน ๒๕๕๒) กกพ.ยืนยันการคิดอัตราค่าผ่านท่อก๊าซใหม่จริง และมีผลบังคับใช้ ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน คือ ค่าเอฟที(Ft) จะเพิ่มขึ้นทำให้ค่าไฟฟ้าสูงขึ้นซึ่งทางมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคและเครือข่ายผู้บริโภคจะเข้ายื่นเรื่องฟ้องต่อศาลปกครองและจะขอให้มีการคุ้มครองให้มีการระงับการอนุมัติปรับขึ้นอัตราค่าผ่านท่อก๊าซดังกล่าวของ กกพ. เพราะถือเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เอาเปรียบประชาชนผู้บริโภค และจะดำเนินการเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด

 

{mxc}

พิมพ์ อีเมล