เตือนผู้ซื้อ iPhone 3G หากเปลี่ยนใจต้องบอกเลิกสัญญาใน 30 วัน

เขียนโดย มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ.). จำนวนผู้ชม: 5094

สบท.  เตือนผู้บริโภคที่ซื้อ iPhone 3G ถ้าเลือกแพ็คเกจที่ต้องผ่อนผ่านบัตรเครดิต เท่ากับทำธุรกรรมกับแบงค์ หากต้องการยกเลิกสัญญาก่อนกำหนด ต้องทำภายใน 30 วันนับจากวันที่ได้รับเครื่อง

   
จากกรณี บจ. ทรูมูฟ ออกแพ็คเกจการตลาดใหม่   ขายเครื่อง iPhone  3G  โดยกำหนดรูปแบบส่วนใหญ่เป็นการผูกค่าเครื่องรวมกับค่าบริการให้ลูกค้าจ่ายในอัตราเหมารายเดือนเป็นระยะเวลา ๑๒-๒๔ เดือน เมื่อช่วงกลางเดือนมกราคม ที่ผ่านมา นายแพทย์ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา  ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (สบท) ซึ่งเป็นองค์กรอิสระในกำกับดูแลของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) เปิดเผยว่า แพ็คเกจการตลาดดังกล่าวมีประเด็นที่น่าห่วงใยหลายประการในมิติด้านการคุ้มครองผู้บริโภค โดยประเด็นสำคัญประการหนึ่งก็คือเรื่องของสัญญา เนื่องจากการส่งเสริมการขายของทรูในครั้งนี้เป็นการขายเครื่องพ่วงบริการ เป็นแพ็คเกจที่ผูกเรื่องการเช่า/ซื้อเครื่องกับการบริการโทรคมนาคมเข้าด้วยกัน และเป็นการทำธุรกรรมผ่านบัตรเครดิตด้วย ลักษณะการทำสัญญาในครั้งนี้จึงเป็นพันธะทางกฎหมายที่คาบเกี่ยวระหว่างบริการโทรคมนาคมซึ่งผูกพันกับ บจ. ทรูมูฟ และการทำธุรกรรมผ่านบัตรเครดิต ซึ่งผูกพันกับธนาคาร
ทั้งนี้ ในการยกเลิกสัญญาก่อนกำหนด สำหรับกรณีที่เป็นการทำธุรกรรมผ่านบัตรเครดิต ผู้บริโภคจะสามารถทำได้ภายใต้ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจบัตรเครดิตเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ. ๒๕๔๒  ข้อ ๓ (๗) ข ซึ่งระบุว่า
            
“ในกรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจมีข้อตกลงกับผู้ขายสินค้าหรือผู้ให้บริการที่ให้ผู้บริโภคสั่งซื้อสินค้าหรือใช้บริการ   ที่ผู้บริโภคเพียงแจ้งความประสงค์ขอชำระค่าสินค้าหรือค่าบริการ โดยการแจ้งหมายเลขบัตรเครดิตด้วยวาจาหรือลายลักษณ์อักษรให้ผู้ขายสินค้าหรือผู้ให้บริการทำการเรียกเก็บเงินจากผู้ประกอบธุรกิจ  ต้องมีข้อสัญญาดังต่อไปนี้...
          
(ข)  ไม่เป็นการตัดสิทธิของผู้บริโภคที่จะขอยกเลิกการซื้อสินค้า ภายในระยะเวลา ๓๐ วันนับแต่วันถึงกำหนดการส่งมอบสินค้าหรือบริการ  .....”
          
นายแพทย์ประวิทย์ชี้ว่า ผลของข้อกฎหมายดังกล่าวทำให้ผู้บริโภคที่ได้ไปรับเครื่อง iPhone 3G มาแล้วมีสิทธิยกเลิกการซื้อสินค้ากับธนาคารได้ภายในระยะเวลา ๓๐ วันนับแต่วันที่รับเครื่องมา      
   
“หากผู้บริโภคท่านใดที่รับได้รับเครื่องมาตั้งแต่วันแรกที่กำหนดส่งมอบเครื่อง คือ วันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๕๒ ก็มีสิทธิบอกเลิกการซื้อสินค้ากับแบงค์ได้ภายในไม่เกินวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์นี้ และหากรับเครื่องหลังจากนั้นก็นับต่อไปอีก ๓๐ วัน ที่ท่านจะมีสิทธิในการบอกยกเลิกการซื้อเครื่องได้“ ผอ. สบท. กล่าว
    ส่วนการบอกเลิกสัญญากับ บจ. ทรูมูฟ นั้น นายแพทย์ประวิทย์กล่าวว่า ตามประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง มาตรฐานของสัญญาให้บริการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๔๙  ข้อ ๑๕ ระบุว่า
   

“ในกรณีที่ผู้ให้บริการได้ส่งมอบเครื่องอุปกรณ์หรือสิ่งอื่นที่เกี่ยวข้องให้แก่ผู้ใช้บริการโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายหรือคิดค่าใช้จ่ายในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาดของค่าอุปกรณ์ ในขณะที่ส่งมอบเพื่อประโยชน์ในการใช้บริการโทรคมนาคมนั้น ผู้ให้บริการจะถือเอาเหตุดังกล่าวมากำหนดเป็นเงื่อนไขอันก่อให้เกิดภาระแก่ผู้ใช้บริการหรือเรียกเก็บค่าปรับหรือค่าเสียหายจากการที่ผู้ใช้บริการยกเลิกสัญญาก่อนกำหนดมิได้ “
           

ดังนั้น ผู้ใช้บริการโทรคมนาคมจึงมีสิทธิบอกเลิกสัญญากับผู้ให้บริการโทรคมนาคมเวลาใดก็ได้ โดยที่ผู้ให้บริการจะยกเอาเครื่องอุปกรณ์มาเป็นเงื่อนไขในการเรียกเก็บค่าปรับหรือค่าเสียหายจากการที่ผู้ใช้บริการยกเลิกสัญญาก่อนกำหนดมิได้

 


ข่าวจาก 
สถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม
12/2/52

พิมพ์