คลังเตือนมิจฉาชีพออกหลอกลวงเงินแบบขายตรงขายสินค้าหาสมาชิก

รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้มีกลุ่มมิจฉาชีพโฆษณาชักชวนประชาชนให้นำเงินมาลงทุนเก็งกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และเก็งกำไรจากราคาน้ำมันระหว่างประเทศ ด้วยการชักชวนให้สมัครสมาชิกแอบอ้างการขายสินค้าต่าง ๆ บังหน้า การหลอกลวงประชาชนในลักษณะดังกล่าว ได้แพร่หลายออกไปในจังหวัดต่าง ๆ มากขึ้น จึงขอเตือนว่า พฤติกรรมเหล่านี้เข้าข่ายการระดมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและเข้าข่ายกระทําความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 จึงแจ้งเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อกลุ่มบุคคล หรือนิติบุคคลดังกล่าว และหากมีข้อสงสัย หรือได้รับความเสียหาย ขอให้สอบถาม ร้องเรียน หรือแจ้งเบาะแสที่กระทรวงการคลัง

นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจชักชวนประชาชนให้สมัครสมาชิก และร่วมลงทุนซื้อขายสินค้าทางเว็บไซต์ โดยอ้างว่าเป็นบริษัทจากต่างประเทศ และผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนสูง เช่น ลงทุนครั้งแรก 120 เหรียญ หรือ 4,200 บาท และสมาชิกต้องซื้อสินค้าทุกเดือน เดือนละ 50 เหรียญ หากแนะนำคนมาสมัครเป็นสมาชิก และซื้อสินค้าทุกเดือน สมาชิกผู้แนะนำจะได้รับเงินค่าแนะนำสมาชิกในอัตราที่สูง ทั้งยังอ้างว่ามีสมาชิกชาวไทยสามารถทำรายได้สูงถึงเดือนละ 400,000 บาท

ทั้งนี้ พนักงานเจ้าหน้าที่กลุ่มป้องปรามการเงินนอกระบบ ได้ตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่าง ๆ เบื้องต้น พบว่า มีการดำเนินธุรกิจด้วยการโฆษณาชักชวนประชาชนให้นำเงินมาลงทุนสมัครสมาชิก และแอบอ้างการขายสินค้าบังหน้า โดยไม่ได้มุ่งเน้นการขายสินค้า แต่มีลักษณะเป็นการระดมเงินจากประชาชน และจัดคิวเงินโดยนำเงินของสมาชิกรายใหม่ มาจ่ายหมุนเวียนให้กับสมาชิกรายเก่าต่อกันไปเรื่อย ๆ เมื่อไม่สามารถหาคนมาเป็นสมาชิกเพิ่มหรือหาคนมาร่วมลงทุนเพิ่ม จะไม่สามารถจ่ายผลตอบแทนจากนั้น จะปิดบริษัทหนีไป ซึ่งอาจทำให้ประชาชนที่ไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ได้รับความเสียหายจากการนำเงินไปลงทุน และสมัครสมาชิกกับกลุ่มบุคคลดังกล่าว

หากพบพฤติกรรมเหล่านี้ ให้แจ้งที่ กลุ่มป้องปรามการเงินนอกระบบ โทร. 0-2273-9021 ต่อ 2627-35 หรือ ศูนย์รับแจ้งการเงินนอกระบบ โทร. 1359 หรือ ตู้ปณ.1359 ปณจ.บางรัก กรุงเทพฯ 10500 หรือ www.mof.go.th/fincrime2004 สํานักคดีอาญาพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ โทร 02-831-9888 หรือ www.dsi.go.th กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี สํานักงานตํารวจแห่งชาติ โทร. 0-2237-1199 โทรสาร 0-2234-6806 หรือ www.ecotecpolice.com สํานักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) โทร.1166 หรือ www.ocpb.go.th สํานักงานสรรพากรพื้นที่จังหวัดในท้องที่เกิดเหตุ และสถานีตํารวจท้องที่เกิดเหตุทุกแห่ง.-

สำนักข่าวไทย
อัพเดตเมื่อ 2009-05-19 18:39:29

 

พิมพ์ อีเมล