ปัญหาบริการสุขภาพครองแชมป์ปัญหาผู้บริโภค คอบช.เสนอรัฐมีองค์การอิสระผู้บริโภค

600111 news1
คอบช. เสนอรัฐบาลเร่งมีองค์กรคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภคที่มีพลัง ตามมาตรา ๔๖ แห่งรัฐธรรมนูญ หนึ่งปีที่ผ่านมามีผู้บริโภคร้องเรียนจำนวน ๓,๖๒๒ เรื่อง เป็นปัญหาด้านบริการสาธารณสุข การเงินการธนาคาร และบริการสาธารณะมากที่สุดจากองค์กรผู้บริโภคทั่วประเทศ



๑๑ มกราคม ๒๕๖๐ ผศ.จุมพล ชื่นจิตต์ศิริ รองประธานกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ภาคประชาชน กล่าวว่า จากการดำเนินงานขององค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ภาคประชาชน ในสามปีที่ผ่านมา พบว่าเกิดประโยชน์ต่อการคุ้มครองผู้บริโภคมาก ทั้งช่วยให้ผู้บริโภคได้รับการคุ้มครองมากขึ้น เช่น การคุ้มครองผู้บริโภคจากตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญ ทำให้ผู้บริโภคประหยัดเงินไม่น้อยกว่า ๗๐๐ ล้านบาท ในการเปลี่ยนบัตรโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดิน ควบคุมราคาจำหน่ายก๊าซหุงต้มทั่วประเทศ การเสนอให้มีกฎหมายคุ้มครองสินค้าใหม่ที่ชำรุดบกพร่อง (Lemon Law) และความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนในการควบคุมการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมาย จึงเสนอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการจัดตั้งองค์กรผู้บริโภคที่เป็นอิสระเพื่อให้เกิดพลังในการคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค รวมทั้งเป็นตัวแทนของผู้บริโภคในการประสานนโยบายและดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานรัฐและภาคเอกชน

นอกจากนี้คาดหวังว่า ในปี ๒๕๖๐ กระทรวงสาธารณสุขโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) จะเดินหน้ายกระดับการคุ้มครองผู้บริโภค ให้มีฉลากจีเอ็มโอครอบคลุมอาหารที่มีจีเอ็มโอทุกชนิด รวมถึง กสทช.จะสามารถบังคับให้ค่ายมือถือ คิดอัตราค่าบริการตามการใช้งานจริงเป็นวินาทีทุกรายการส่งเสริมการขาย ตามที่ได้มีมติ กทค. เมื่อวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๙ เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อผู้บริโภคมากกว่า ๑๘,๐๓๒ ล้านบาท ใน ๗ เดือน

นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า ในปี ๒๕๕๙ ที่ผ่านมา มีเรื่องร้องเรียนรวมทั้งสิ้น ๓,๖๒๒ เรื่อง เป็นปัญหาด้านบริการสุขภาพและสาธารณสุขจำนวน ๖๘๐ เรื่อง ปัญหาด้านการเงินการธนาคาร ๖๒๖ เรื่อง ปัญหาด้านบริการสาธารณะ ๕๕๓ เรื่อง ปัญหาด้านสื่อและโทรคมนาคม ๕๔๑ เรื่อง ปัญหาด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ ๔๕๐ เรื่อง สินค้าและบริการทั่วไป ๓๗๒ เรื่อง และปัญหาที่อยู่ที่อาศัยจำนวน ๑๓๘ เรื่องตามลำดับ
600111 news2
นอกจากนี้องค์กรผู้บริโภคยังได้มีบทบาทในการเผยแพร่ข้อมูลเพื่อการเลือกซื้อสินค้า เช่น สำรวจการทำบัตรเดบิตแบบมีประกันชีวิตเพื่อดูว่าได้รับกรมธรรม์หรือไม่ หรือผู้บริโภคสามารถเปิดใช้บริการเอทีเอ็มแบบธรรมดาได้หรือไม่ ตรวจสารกันบูดในขนมจีน การทดสอบปริมาณสารไนเตรทและไนไตรท์ในไส้กรอก หรือการมียาปฏิชีวนะตกค้างในอาหารฟ้าสต์ฟู้ด เป็นต้น ผลสำรวจและเผยแพร่ข้อมูลหลายเรื่อง ได้รับความร่วมมือจากอย. ในการตรวจสถานประกอบการเมื่อสินค้าตกมาตรฐาน ได้สร้างความตื่นตัวให้กับผู้บริโภคจำนวนมาก และความร่วมมือจากผู้ประกอบอย่างชัดเจนในการพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพมากขึ้น
นางสุภาพร ถิ่นวัฒนากูล กรรมการ/ผู้แทนเขต ๕ ภาคเหนือ กล่าวว่า การมีองค์กรผู้บริโภคในการคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มีความสำคัญเพราะจะช่วยสนับสนุนให้เกิดองค์กรผู้บริโภคในระดับจังหวัดที่เข้มแข็งมากขึ้น และรวมทั้งมีกลุ่มผู้เดือดร้อนในด้านต่าง ๆ ที่สามารถเข้ามามีส่วนร่วมกับรัฐในการคุ้มครองผู้บริโภคได้เพิ่มขึ้น ในรอบปีที่ผ่านมา คอบช.ได้สนับสนุนการพัฒนากลไกคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน ใน ๔๔จังหวัด ทำให้เกิดความร่วมมือกับหน่วยงานในพื้นที่ในการทำงานคุ้มครองผู้บริโภคในรูปแบบสภาผู้บริโภคจังหวัด เช่น จังหวัดพะเยา จัดตั้งสภาผู้บริโภคมีรูปแบบคณะทำงานที่เป็นทางการ เพื่อขับเคลื่อนงานผู้บริโภคในจังหวัดพะเยา จังหวัดเพชรบุรี ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด จัดสภาผู้บริโภคจังหวัด ประเด็นการรู้เท่าทันการโฆษณาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพเกินจริง เพื่อแลกเปลี่ยนสถานการณ์ด้านการโฆษณาเกินจริงในจังหวัด และเกิดคณะทำงานจัดทำข้อเสนอเพื่อสร้างมาตรการในการจัดการโฆษณาเกินจริงในระดับจังหวัด จังหวัดสมุทรสงคราม ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด จัดสภาผู้บริโภคจังหวัด ประเด็นอาหารปลอดภัย เพื่อผลักดันการใช้ฉลากโภชนาการอาหารสัญญาณไฟจราจรเป็นสื่อในการรณรงค์ให้เด็กและเยาวชนตระหนักในการบริโภคอาหารที่เหมาะสม เป็นต้น

นายปฏิวัติ เฉลิมชาติ กรรมการ คอบช. เขตภาคอีสาน กล่าวว่า จากข้อมูลการเฝ้าระวังอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะ ปี 2559 ของมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคร่วมกับเครือข่ายผู้บริโภคทั่วประเทศ พบว่า อุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะทุกประเภทมีเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะรถตู้โดยสารสาธารณะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด โดยเกิดอุบัติเหตุมากถึง 215 ครั้ง หรือ 19.5 ครั้ง/เดือน บาดเจ็บ 1,102 คน หรือ 100 คน/เดือน มีผู้เสียชีวิต 103 คน หรือ 9.4 คน/เดือน ขอเสนอให้รัฐบาลมีการควบคุมความเร็วในการขับขี่รถโดยสารสาธารณะ มีสัญญาณเตือนเมื่อความเร็วสูงกว่ากฎหมายกำหนด เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้บริโภคระมัดระวังร่วมกัน และเข้มงวดกับการตรวจสภาพรถโดยสารมากยิ่งขึ้น หากมีกรณีอุบัติเหตุซ้ำซาก ควรมีมาตรการพักใบอนุญาตการเดินรถของผู้ประกอบการ เพื่อให้เกิดความรับผิดชอบร่วมกัน เพื่อความปลอดภัยทางถนนและการลดอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะ

นายพงษภัทร หงส์สุขสวัสดิ์ ผู้ประสานงานภาคตะวันตก กล่าวว่า ปีนี้เครือข่ายองค์กรผู้บริโภคจะเน้นการเฝ้าระวังโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพผิดกฎหมายในสื่อออนไลน์ ซึ่งเป็นสื่อใหม่ในยุคดิจิทัล ที่ยังไม่มีหน่วยงานใดออกมาเป็นเจ้าภาพกำกับดูแล ส่วนการโฆษณาในสื่อเก่าพบเป็นปัญหาคอขวดในการบังคับใช้กฎหมาย จึงเสนอต่อ อย. ให้มีฐานข้อมูลกลางที่ทุกส่วนสามารถเข้าถึง และตรวจสอบได้ แสดงข้อมูลโฆษณาที่อนุญาต และให้ อย. ใช้แนวทางกระจายอำนาจให้หน่วยงานกำกับดูแลอื่น แก้ไขปัญหาโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพ รวมถึงให้ อย.ปรับปรุงแนวปฏิบัติในการลงโทษ โดยพิจารณาความผิดฐานโฆษณาเกินจริงเป็นเท็จ แทนที่จะลงโทษเพียงฐานไม่ขออนุญาตโฆษณา รวมถึงการกระทำผิดซ้ำซาก

600111 news3

พิมพ์ อีเมล